การเพาะเลี้ยง แม่พันธุ์แหนแดงไม่ยาก
หลังจากที่ได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงแม่พันธุ์แหนแดงให้กรมการข้าวไปดำเนินการเองก็มีเกษตรกรเริ่มรู้จักแหนแดงและมาขอจากกลุ่มงานวิจัยจุลินทรีย์ดินกันมากขึ้น โดยทางกลุ่มงานวิจัยจะสนับสนุนแม่พันธุ์ให้ไปเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เอง โดยยินดีจะถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงให้ ซึ่งไม่ยาก
“การเพาะเลี้ยง เกษตรกรจะต้องทำบ่อแม่พันธุ์แหนแดงไว้ เนื่องจากแหนแดงมีไนโตรเจนสูง เนื้อเยื่อของแหนแดงค่อนข้างอ่อน แมลงจะลงทำลายได้ง่าย เพราะฉะนั้นเกษตรกรจะต้องมีบ่อเพาะเลี้ยงแม่พันธุ์ไว้ เมื่อเราใส่แหนแดงลงไปในแปลงนา และถูกแมลงทำลายเสียหายหมด เราก็ยังมีแม่พันธุ์แหนแดงที่เลี้ยงไว้ในบ่อ โดยไม่ต้องมาขอรับแม่พันธุ์แหนแดงจากกรมวิชาการเกษตรอีก”
การขุดบ่อ เนื่องจากแหนแดงไม่ต้องการน้ำลึก เกษตรกรขุดบ่อให้มีลักษณะเหมือนท้องนาขังน้ำให้ลึก ประมาณ 4-5 เซนติเมตร เรียกว่าเป็นบ่อน้ำตื้น ควรจะมีร่มไม้รำไร ถ้าพื้นที่บ่อ ประมาณ 5 ตารางเมตร ปล่อยแหนแดงลงไป ประมาณ 10 กิโลกรัม 10-15 วัน แม่พันธุ์แหนแดงจะเจริญเติบโตเต็มบ่อ ซึ่งควรจะปล่อยแหนแดงลงบ่อก่อนฤดูฝน ถ้าปล่อยลงบ่อในหน้าแล้ง ความชื้นในอากาศน้อย อาจจะใช้เวลานานถึง 3 สัปดาห์ แหนแดงจึงจะเต็มบ่อ
ดร. ศิริลักษณ์ บอกว่า ถ้าเกษตรกรมีแม่พันธุ์ 10 กิโลกรัม ก็จะเพียงพอสำหรับนา 1 ไร่ หลังจากนำไปปล่อยในนา ประมาณ 3-4 สัปดาห์ ก็จะขยายแหนแดงได้ถึง 3,000 กิโลกรัม/ไร่ ถ้าหว่านแหนแดงลงไปในปริมาณมากจะขยายพันธุ์ได้เร็ว เพราะระบบขยายพันธุ์ของแหนแดงขยายให้น้ำหนักสดเป็น 2 เท่าตัว ทุก 3-5 วัน
การนำแหนแดงไปใช้
แหนแดงสด ถ้าจะใส่ในนาข้าว เกษตรกรควรนำไปหว่าน 2 ช่วง ด้วยกัน ช่วงแรก หว่านแหนแดงก่อนตีเทือก เพื่อให้แหนแดงไปเพาะขยายในท้องนา ประมาณ 20 วัน แล้วไถกลบ เมื่อแหนแดงย่อยสลายก็จะเริ่มปลดปล่อยไนโตรเจนออกมา ดังนั้น เมื่อตีเทือกเสร็จก็หว่านข้าวหรือดำนาได้เลย อีกช่วงหนึ่งถ้าเป็นนาดำ ให้ดำนาไปก่อน แล้วหว่านแหนแดงลงไปในนา แหนแดงจะไปขยายพันธุ์เต็มท้องนา เพราะนาดำมีลักษณะเป็นบ่อน้ำตื้น ประโยชน์ที่ได้ตามมาก็คือ แหนแดงจะช่วยบดบังแสงแดด ป้องกันไม่ให้วัชพืช ข้าววัชพืช ข้าวลีบ หรือข้าวดีด ที่ติดมากับรถเกี่ยวข้าว ตกค้างอยู่ในนา เจริญเติบโตขึ้นมาในนาข้าว
นอกจากนั้น ยังมีรายงานผลการทดสอบภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างประเทศของสถาบันวิจัยข้าวนานาชาติว่า การเลี้ยงแหนแดงในนาแล้วไถกลบก่อนปักดำ สามารถเพิ่มผลผลิตได้ทัดเทียมกับการใส่ปุ๋ยยูเรีย อัตรา 4.8 กิโลกรัม/ไร่ และการเลี้ยงแหนแดงหลังปักดำก็ให้ผลผลิตทำนองเดียวกัน หรือการไถกลบทั้ง 2 วิธี ร่วมกันก็สามารถเพิ่มผลผลิตข้าวเปลือกได้ โดยเฉลี่ย 160 กิโลกรัม/ไร่
เนื่องจากแหนแดงมีโปรตีน ไขมัน เซลลูโลส และแร่ธาตุต่างๆ เป็นส่วนประกอบจำนวนมาก จึงเหมาะสมที่จะใช้เป็นอาหารสัตว์ได้เป็นอย่างดี จากการวิเคราะห์พบว่า กรดอะมิโนที่จำเป็นในแหนแดงมีปริมาณสูงเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของปลา จึงเหมาะสมที่จะใช้เลี้ยงปลา โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาในนาข้าวที่มีแหนแดงอยู่ด้วย สามารถทำให้น้ำหนักของปลาและขนาดของปลาเพิ่มขึ้นมากกว่าปลาที่เลี้ยงในนาข้าวโดยไม่มีแหนแดงร่วมด้วย
นอกจากนี้ การเลี้ยงปลาในนาข้าวยังทำให้ต้นข้าวได้รับปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอตลอดฤดูทำนาจากมูลปลาที่ถ่ายออกมาหลังจากกินแหนแดงเข้าไป ซึ่งทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นอีกด้วย จะเห็นได้ว่าแหนแดงเป็นพืชมหัศจรรย์ที่มีประโยชน์มากในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรแบบครบวงจร ดร. ศิริลักษณ์ กล่าว
แหนแดงแห้ง เนื่องจากแหนแดง เพิ่มปริมาณตัวเองอย่างรวดเร็ว เราก็เก็บรวบรวมมาตากแดดไว้ ประมาณ 2 วัน ก็แห้ง เก็บใส่กระสอบรวบรวมไว้สำหรับใช้ปลูกพืช อัตราที่นำแหนแดงแห้งไปใช้ ประมาณ 20 กรัม ต่อดินวัสดุเพาะ 1 กิโลกรัม จากผลการทดลองปลูกผักสลัดให้ผลเป็นที่น่าพอใจ ดร. ศิริลักษณ์ บอกว่า แหนแดงแห้งมีคุณสมบัติไม่แตกต่างจากแหนแดงสด เพราะองค์ประกอบของแหนแดงมีไนโตรเจนค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับปุ๋ยยูเรีย แหนแดงแห้ง 6 กิโลกรัม เท่ากับปุ๋ยยูเรีย ประมาณ 10-12 กิโลกรัม ซึ่งเพียงพอสำหรับการปลูกพืช
แหนแดง เหมาะสำหรับเกษตรอินทรีย์
เกษตรกรที่ปลูกผักหรือทำการเกษตรอินทรีย์ ถ้าใช้แหนแดงผสมกับดินปลูก จะไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีในปริมาณมาก กลุ่มงานวิจัยจุลินทรีย์ดิน จึงผลิตแหนแดงเพื่อสนับสนุนงานเกษตรอินทรีย์หรือการทำการเกษตรแบบผสมผสานตามระบบทฤษฎีใหม่ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ แบบครบวงจร แหนแดงสามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วย กินได้ทั้งสดและแห้ง ควบคู่ไปกับอาหารเม็ด หรือผสมกับฟางข้าวหรือหญ้าแห้งก็ได้ เพราะองค์ประกอบของแหนแดงมีโปรตีนสูง ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ มีอะมิโนแอซิดครบทุกตัว จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารสัตว์ โดยเฉพาะในหน้าแล้งขาดแคลนหญ้าอาหารสัตว์หรือมีไม่เพียงพอ เกษตรกรสามารถใช้แหนแดงสดหรือแห้งผสมกับฟางแห้งหรือหญ้าแห้ง สัตว์ก็จะได้อาหารที่มีคุณภาพดี เกษตรกรสามารถเพาะเลี้ยงแหนแดงโดยเลี้ยงในบ่อน้ำตื้น ประมาณ 4-5 เซนติเมตร แหนแดงจะไม่มีวันขาดแคลน เก็บเกี่ยวได้ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะแหนแดงจะเจริญเติบโตและขยายตัวไปได้เรื่อยๆ
“แหนแดง สามารถไปทดแทนปุ๋ยยูเรียได้ในขณะที่ปุ๋ยมีราคาแพง และไม่ต้องกังวลในเรื่องของปุ๋ยปลอม” ดร. ศิริลักษณ์ กล่าวในที่สุด
หน้าที่เข้าชม | 640,616 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 427,088 ครั้ง |
เปิดร้าน | 8 มี.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 8 ก.ย. 2568 |