ฟางข้าวทำอะไรได้บ้าง ประโยชน์ของฟางข้าวที่มีค่ามากทางการเกษตร
ฟางข้าว เป็นวัสดุธรรมชาติที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวข้าวในนา เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มหาศาล ที่เกษตรกรส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี เช่น ใช้ทำเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง ทำปุ่ยหมัก เพาะเห็ดฟาง เป็นต้น นอกจากนี้เราใช้ประโยชน์จากฟางข้าวหลายวิธี มาดูกันว่าประโยชน์ของฟางข้าวทางด้านการเกษตร มีอะไรบ้าง มีอีกหลายอย่าง ที่คุณยังไม่ทราบแน่นอน ไปชมกันเลย
ฟางข้าวจะช่วยควบคุมพืช ที่ไม่เป็นประโยชน์ในนาข้าว ไม่ให้งอกเจริญเติบโต โดยฟางที่คลุมผืนนา จะบดบังแสงแดดไม่ให้ส่องถึง และยังจะช่วยรักษาความชื้น ของดินในนาให้อยู่ได้นาน ซึ่งจะทำให้ต้นข้าวมีน้ำเพียงพอ แม้จะมีสภาวะแห้งแล้งติดต่อกันก็ตาม ต้นข้าวก็สามารถเจริญงอกงาม ให้ผลผลิตสูงกว่าการเปิดดินโดยปราศจากฟางข้าวคลุมดิน
ความชื้นในสภาพคลุมฟางในนาข้าวหลังเก็บเกี่ยว มีเพียงพอที่จะปลูกพืชตระกูลถั่ว โดยเฉพาะถั่วเขียว ซึ่งมีอายุเก็บเกี่ยวเพียงแค่ 60 วัน หรือพืชหมุนเวียนอื่นๆ โดยปลูกหลังจากที่ได้ไถฟาง กลบลงไปในดินแล้ว การปลูกพืชตระกูลถั่วหลังการทำนา ยังใช้น้ำน้อยและเพิ่มไนโตรเจน โดยเชื้อจุลิน ทรีย์ที่ปมรากถั่ว จะตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาเป็นปุ่ยในดิน
การห่มดิน หรือที่เรียกว่าศาสตร์การห่มดิน เป็นการนำฟางข้าวหรือใบไม้ หญ้าแห้ง มาคลุมให้ทั่วบริเวณทรงพุ่มต้นไม้ เพื่อรักษาความชื้น และความร้อนหน้าดิน ทำให้สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ในดินเกิดการขยายตัวมากขึ้น อาจเสริมด้วยน้ำหมักจุลิ นทรีย์ เช่น จุลิ นทรีย์สังเคราะห์แสง ที่ทำได้ง่ายในเวลา 1 เดือน เพื่อให้จุลิ นทรีย์ทำการย่อยอินทรียวัตถุ บริเวณนั้นออกมาให้เป็นแร่ธาตุกับพืช
การห่มดิน จะทำให้รากพืชบางส่วนงอกขึ้นมาหาอาหารบนดิน ซึ่งรากพืชนั้นสามารถบอกถึง ความสมบูรณ์ของต้นพืชได้ โดยการเปิดหน้าดินเล็กน้อยแล้วสังเกตที่ปลาย ราก ถ้าปลาย ราก ยาว อวบ สดใส มีจำนวนมากแสดงว่าต้นสมบูรณ์ดี แต่ถ้าปลาย ราก เรียว เล็ก ก็แสดงว่าความสมบูรณ์ยังน้อย
ฟางช่วยปรับโครงสร้างของดิน ที่เป็นกรดหรือเป็นด่าง ให้เกิดความสมดุล ดินที่เป็นกรด คือดินที่มีค่า ph ต่ำกว่า 7.0 ดินที่เป็นด่าง คือดินที่มีค่า ph สูงกว่า 7.0 ไม่ว่าดินจะเป็นกรดหรือเป็นด่าง ถ้าหากท่านเอาฟางไปคลุมดินไว้ สิ่งเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปเองทันที ช่วยรักษาหน้าดินตามธรรมชาติของดิน ถ้าหากไม่มีอะไรปกคลุมหรือกั้นเอาไว้ หน้าของดินจะเสื่อมและเสียไปตามธรรมชาติ ซึ่งจะทำให้ดินเป็นดินด้านอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าหากเรานำฟางไปคลุมดินไว้ จะทำให้เกิดชั้นหน้าดินอีกทีหนึ่ง ช่วยคลุมหญ้าต่างๆ เมื่อเรานำฟางไปคลุมหญ้าหนาพอสมควร โดยไม่ให้อากาศหรือแสงแดดส่องถึงพื้นดิน จะทำให้หญ้ากลายเป็นปุ๋ยหมักตามธรรมชาติอย่างดี หลังจากนั้นเราก็จะสามารถฟางออกปลูกพืชผักต่างๆ ได้ โดยไม่ต้องออกแรงมากนัก ฟางรักษาความชื้นให้แก่ดินเป็นการสร้างดินให้มีชีวิต
ฟางข้าวช่วยสร้างระบบนิเวศ ถ้าหากเราทำกสิกรรมที่ใช้ฟางเป็นหลัก จะทำให้ประหยัดน้ำมากขึ้น ช่วยให้เกิดวัฎจักรชีวิตของสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อดิน ตามธรรมชาติดินที่ว่างเปล่าหรือดินโล้น จะเป็นดินดาน ดังนั้น ถ้าหากเราปลูกพืชลงไปพืชผักจะอ่อนแอ ไม่เจริญเติบโต แต่ดินที่คลุมด้วยฟาง จะเป็นดินที่ร่วนซุยเพราะไส้เดือน จุลิน ทรีย์ และสัตว์ต่างๆ ช่วยกันพรวนดิน ดินที่คลุมด้วยฟางก็จะเป็นอาณาจักรของสัตว์ต่างๆ เพราะระบบนิเวศวิทยาอุดมสมบูรณ์ เช่น คางคก แย้ จิ้งเหลน แมงมุม ฯลฯ แมลงไม่พึงประสงค์ก็จะค่อยๆ หายไป โดยที่เราไม่ต้องไปใช้สารขับไล่แมลง
ฟางเป็นหัวปุ๋ยชั้นดี ฟางอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน ฯลฯ ถ้าหากเรานำฟางไปคลุมดิน จะทำให้พืชผักเจริญเติบโต แข็งแรง ทนทาน ท่านที่ไม่ชอบฟางอาจทำให้ระคายผิวบ้าง จึงหันไปใช้มูลโคมูลกระบือแทน ท่านเคยสังเกตไหมครับว่า โคกระบือกินอะไร พวกมันกินหญ้า กินฟางก็นำไปบำรุงร่างกายของมันทั้งหมด ส่วนที่เหลือก็ขับถ่ายออกมาเป็นกากของฟางประโยชน์ก็มีน้อย จึงเปรียบเทียบเอาไว้ว่ามูลโคมูลกระบือ 10 ส่วนจะเท่ากับฟาง 1 ส่วน
หากนำไปคลุมสวนผักของเราทุกๆ ปี จะเกิดความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ พืชผักนานาชนิด จะเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ต้องไปดูแลมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นจะเกิดเห็ดต่างๆ โดยเฉพาะเห็ดฟางให้เราได้มีอยู่มีกินทั้งปี ดังนั้นเราควรเห็นความสำคัญของฟาง เมื่อเห็นกองฟาง หรือเส้นฟางจงระลึกอยู่เสมอว่า นี่คือทองคำหรือทรัพยากรอันมีค่า และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูง ประหยัดสุด เพื่อประโยชน์ของตนและผู้อื่นในโอกาสต่อไป อีกอย่างหนึ่งการทำกสิกรรมธรรมชาติด้วยฟาง ควรเริ่มทำในพื้นที่ขนาดเล็กไปหาพื้นที่ขนาดใหญ่ หรือทำในสิ่งที่ใกล้ๆ ตัวไปหาสิ่งที่อยู่ไกลตัว พยายามปลูกพืชผักที่ปลูกง่ายไปหาผักที่ปลูกยาก หรือถ้าคิดอะไรไม่ออก ขอบอกให้ปลูกพืชตระกูลถั่ว เราจะประสบผลสำเร็จในที่สุด